Tether เล็งทุ่ม 500 ล้านดอลลาร์ ตั้งเป้าขึ้นเป็นหนึ่งในนักขุด Bitcoin รายใหญ่ที่สุดภายใน 6 เดือน

Tether บริษัทผู้ออกเหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าราคาตลาดอย่าง USDT วางแผนที่จะลงทุนมูลค่าครึ่งพันล้านดอลลาร์ หรือ 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อวางตำแหน่ง Tether ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin

ตามที่รายงานโดย Bloomberg เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน Tether ตั้งใจที่จะลงทุนในกองทุนนี้ในอีกหกเดือนข้างหน้า โดยผู้ออกเหรียญ Stablecoin ยักษ์ใหญ่รายนี้พยายามที่จะกระจายแหล่งรายได้และลดการพึ่งพา USDT ของตลาด ทำให้การขยายเชิงกลยุทธ์นี้สามารถนำเสนอโอกาสใหม่ ๆ ท่ามกลางการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเสถียรภาพของ USDT

สิ่งที่น่าสนใจคือ BlackRock Inc. (NYSE: BLK) กล่าวถึง USDT ในการเปิดเผยความเสี่ยงสำหรับ Spot Bitcoin ETF การเปิดเผยความเสี่ยงดังกล่าวเป็นตัวอย่างหนึ่งของความท้าทายที่ Tether ต้องเผชิญกับชื่อเสียงของเหรียญ stablecoin และการพึ่งพาธุรกิจ

ทั้งนี้ การก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ของ Tether นั้นสอดคล้องกับความสนใจที่เพิ่มขึ้นในด้านความยั่งยืนของการขุดเหมือง ซึ่ง Tether ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือสถานที่เฉพาะสำหรับการขุดเหมืองของบริษัท

ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในชุมชนคริปโตต่างก็ได้แสดงความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับการประกาศของ Tether ในครั้งนี้ โดยบางส่วนมองว่า นี่เป็นการพัฒนาในเชิงบวกของการลงทุนในอุตสาหกรรม และอีกบางส่วนก็มีความกังวลเกี่ยวกับการรวมอำนาจในอุตสาหกรรมการขุดเหมืองมากขึ้น ทั้งนี้การขยายตัวของ Tether เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บทบาทของการขุด Bitcoin กำลังแสดงให้เห็นถึงระดับความรวมศูนย์ที่สำคัญ

อย่างไรก็ตามการพยายามของบริษัทอาจช่วยกระจายอำนาจของ Bitcoin ในแง่มุมต่างๆ เช่น การกระจายอำนาจทางอำนาจ (power decentralization) และการกระจายอำนาจทางภูมิศาสตร์ (geographic decentralization) โดยตัวควบคุมของ USDT ตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าส่วนแบ่งอัตราแฮชเรต 1% ของเครือข่ายของ Bitcoin และสร้างพลังงานให้ถึง 120 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปี 2023 และ 450 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปี 2025 เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ Tether จะสร้างฟาร์มขุด Bitcoin ในอุรุกวัย ปารากวัย และเอลซัลวาดอร์

นักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแลต่างก็ให้ความสนใจ stablecoin และการตัดสินใจของ Tether ที่จะกระจายความเสี่ยงอาจช่วยให้ stablecoin ได้รับการยอมรับและมีความเสถียรมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของการลงทุนครั้งนี้ต่อสถานะของบริษัทและตลาดคริปโตโดยรวมยังคงต้องรอดู ต่อไปว่าการลงทุนในครั้งนี้จะส่งผลต่ออนาคตของ Tether และบทบาทของมันในฐานะผู้นำในระบบสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างไร

ที่มา: finbold